เรอัล มาดริด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเวที ลา ลีกา สเปน จำเป็นต้องขายนักเตะให้ได้เงินรวมแล้ว 300 ล้านยูโร (ประมาณ 10,800 ล้านบาท) เพื่อที่จะได้ไม่ละเมิดกฎควบคุมการเงิน (ไฟแนนเชี่ยล แฟร์ เพลย์) ของสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ตามรายงานของ อาส สื่อชื่อดังของแดนกระทิงดุ
หลังจบฤดูกาล 2018-19 เรอัล ทุ่มเงินก้อนโตคว้านักเตะไปร่วมทีมแล้ว 2 คน ประกอบด้วย ลูก้า โยวิช หัวหอกเลือดเซิร์บซึ่งมีค่าตัว 60 ล้านยูโร (ประมาณ 2,160 ล้านบาท) และ เอแด็น อาซาร์ ที่มีค่าตัวในเบื้องต้น 100 ล้านยูโร (ประมาณ 3,600 ล้านบาท) ซึ่ง “ราชันชุดขาว” จะจ่ายเพิ่มอีก 50 ล้านยูโร (ประมาณ 1,800 ล้านบาท) ถ้าหากดาวเตะชาวเบลเยียมทำผลงานได้ตรงตามเงื่อนไขที่กำหนดเอาไว้
นอกจากนี้ เรอัล ยังคิดที่จะซิว ปอล ป็อกบา มิดฟิลด์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ คริสเตียน เอริคเซ่น จอมทัพของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ไปร่วมทีมด้วย โดยพวกเขาจำเป็นต้องเสริมทัพครั้งใหญ่เพื่อทำให้ทีมกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง ซึ่งเชื่อกันว่า เรอัล จะใช้เงินช็อปในช่วงซัมเมอร์นี้ถึง 400 ล้านยูโร (ประมาณ 14,400 ล้านบาท) ด้วยกัน